บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มิถุนายน, 2017

ศิลปะยุคบาโรค Baroque ตอนที่ 6 แอนโทนี แวน ไดค์ เจ้าหนูอัฉริยะศิษย์โปรดของรูเบนส์

รูปภาพ
แอนโทนี แวน ไดค์ เจ้าหนูอัฉริยะศิษย์โปรดของรูเบนส์ แอนโทนี แวน ไดค์  ( Sir Anthony van Dyck; ค.ศ. 1599 - ค.ศ. 1641) ภาพเขียนตัวเองเมื่ออายุ 18 ปี  Self-portrait 1617      เป็นจิตรกรชาวเฟลมมิชซึ่งมา และเป็นจิตรกรคนสำคัญ ประจำราชสำนักพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 ที่อังกฤษในคริสต์ศตวรรษที่ 17 ผู้มีความเชี่ยวชาญในการเขียนภาพสีน้ำมัน โดยเฉพาะภาพเหมือน  นอกจากภาพเหมือนแล้ว แวน ไดค์ ยังเขียนภาพจากพระคัมภีร์และตำนานเทพ และเป็นจิตรกรคนสำคัญผู้ริเริ่มใช้สีน้ำ และ การแกะภาพโลหะ (etching) สีน้ำ English Landscape 1635       แอนโทนี แวน ไดค์เกิดในครอบครัวที่มั่งคั่งที่อันท์เวิร์พในประเทศเบลเยียมปัจจุบัน และเป็นผู้มีความสามารถทางการเขียนมาตั้งแต่เด็ก ภายในปี ค.ศ. 1609 ก็ได้เข้าศึกษาการเขียนภาพกับเฮนดริค ฟาน บาเล็น (Hendrick van Balen) และเป็นช่างเขียนอิสระเมื่อปี ค.ศ. 1615 ตั้งเวิร์คช็อพร่วมกับยาน บรูเกล ผู้ลูก (Jan Brueghel the Younger) Hendrick van Balen อาจารย์คนแรก วาดดินสอโดย แวน ไดค์ ภาพพิมพ์โลหะ ยาน บรูเกล Jan Brueghel the Younger โดยแวนไดซ์ Anthonis van Dyck

ศิลปะยุคบาโรค Baroque ตอนที่ 5 Peter Paul Rubens รูเบนส์ ผู้เป็นหัวขบวนยุคทองของ ศิลปะบาโรก

รูปภาพ
  เปเตอร์ เปาล์ รือเบินส์ หรือรูเบนส์ Peter Paul Rubens (1577-1640) ผู้เป็นหัวขบวนยุคทองของ ศิลปะบาโรก Peter Paul Rubens, Self - Portrait (1623)      ในสมัยนั้นประเทศฮอลแลนด์และประเทศเบลเยียม เป็นแว่นแคว้นรวมอยู่ในประเทศเดียวกัน โดยอยู่ภายใต้การปกครองของชาวสเปนและประชาชนทั้งหลายต่างก็กำลังจะเริ่มก่อกบฏต่อต้านผู้กดขี่พวกเขา บิดาของรือเบินส์ต้องหลบหนีจากสเปนไปยัง ประเทศเยอรมนี ที่เมืองซีเกิน รือเบินส์จึงเกิดที่เมืองนี้ พอ10 ขวบบิดาได้เสียชีวิตลง แม่จึงส่งกลับไปนครแอนต์เวิร์ป หรือเบินส์เข้าโรงเรียนในนครแอนต์เวิร์ป (ปัจจุบันเรียกว่าประเทศเบลเยียม) และเรียนรู้ภาษาละตินและภาษากรีกด้วยแม่อยากให้รับราชการเธอจึงส่งเขาไปเป็นมหาดเล็กในวัง แต่ด้วยความเบี่อหน่ายเขาจึงออกมาศึกษาวาดรูปอย่างจริงจัง โดยศึกษากับอาจารย์3 ท่าน Portrait Portrait of a Young Scholar ปี1597 วาดตอนอายุ20 ปี ภาพประวัติการก่อตั้งกรุงโรมที่กล่าวถึง เรมุสกับโรมิอุส ถูกนำไปเลี้ยงโดยหมาป่า     แต่สำหรับพรสวรรค์ทางศิลปะที่ยิ่งใหญ่ของเขา แม้แต่แอนต์เวิร์ป (ซึ่งในขณะนั้นใหญ่กว่าลอนดอนหรือปารีส) ก็ยังเล็กเกิ