ศิลปโรโคโค ตอนที่5 ชาร์แด็ง (Jean-Baptiste-Siméon Chardin) ความงามแห่งความสงบสันโดษและไร้เดียงสา



self-portrait wearing Glasses, 1775.  pastel on blue paper

ฌ็อง-บาติสต์-ซีเมอง ชาร์แด็ง (Jean-Baptiste-Siméon Chardin); ค.ศ. 1699 - 6 -ค.ศ. 1779) เป็นจิตรกรชาวฝรั่งเศสของคริสต์ศตวรรษที่ 18 ผู้มีความเชี่ยวชาญทางการเขียนภาพนิ่ง

ชาร์แด็ง เกิดและใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในในปารีสเป็นบุตรของช่างทำตู้ ชาร์แด็งพำนักอยู่ที่เลฟต์แบงก์จนกระทั่งปี ค.ศ. 1757 เมื่อพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศสพระราชทานห้องเขียนภาพในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์


ชาร์แด็งทำสัญญาสมรสกับมาร์เกอริต แซ็งตาร์ในปี ค.ศ. 1723 แต่ก็ยังไม่ได้แต่งจนกระทั่งในปี ค.ศ. 1731 ชาร์แด็งฝึกงานกับจิตรกรประวัติศาสตร์ปีแยร์-ฌัก กาแซ็ส และนอแอล-นีกอลา กัวแปล ( Noël Coypel-เขาเขียนภาพโดยได้รับอิทธิพลจาก นีกอลา ปูแซง จิตรกรภาพประวัติศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่จึงมีชื่อ “นีกอลา” ไปด้วย)และในปี ค.ศ. 1724 ก็ได้เป็นมาสเตอร์ของสถาบันแซ็ง-ลุก เมื่ออายุ 25 ปี(มาสเตอร์-การได้รับเป็นศิลปินมืออาชีพเต็มตัว) Chardin ทำงานช้ามากและมีงานจิตรกรรมน้อยกว่า 200 ภาพ (ประมาณสี่ปี)





Solon Supporting Justice, c.1672, oil on canvas, 500 x 870 cm,วาดโดยกัวแปลอาจารย์ของชาแดง

 ภาพวาด Rococo ที่ครอบงำศิลปะฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 18 ในช่วงเวลาที่การวาดภาพประวัติศาสตร์ถือว่าเป็นการจัดอันดับสูงสุดสำหรับงานศิลปะสาธารณะส่วนหัวข้อที่เลือกของ Chardin (เรื่องชีวิตประจำวันและหุ่นนิ่ง)ถูกมองว่าเป็นหมวดย่อยมีค่าต่ำสุด

พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 ผู้อุปถัมภ์และให้เงินบำนาญแก่ Chardin วาดโดย Jean-Baptiste van Loo

ภาพวาดตนเองของ Jean-Baptiste van Loo  ผู้ประทับใจงานของชาร์แดง


 Still-Life With Cat and Rayfish 1728 , Thyssen-Bornemisza Museum





The Silver Tureen 1728, Metropolitan Museum of Art


 A Bowl of Plums  1728

จากศิลปินหน้าใหม่ที่ไม่มีใครรู้จัก เขาได้จัดนิทรรศการเล็กๆขึ้นที่ "คอร์ปัสคริสตี"ในปี1720 ทำให้ศิลปินผู้มีชื่อเสียงอย่างแวนลู( Jean-Baptiste van Loo)สนใจและสนับสนุนเขา


The Ray , 1728, Musée du Louvre , Paris-ภาพปลากระเบน งานสร้างชื่อให้กับชาร์แด็ง

เมื่อภาพ "The Ray"ถูกจัดแสดงขึ้นได้ทำให้เกิดการตื่นตาตื่นใจของแวดวงศิลปอย่างกว้างขวาง ด้วยการนำเสนอรูปแบบของหุ่นที่แปลกประหลาดของปลากระเบน กับการแสดงความหวาดสยองของลูกแมวที่ขนตั้งฟู ซึ่งชาแดงวาดได้ราวกับมีจิตวิญญาณ นักวิจารย์ศิลปยุคนั้นได้กล่าวถึง "สัตว์ประหลาดตัวประหลาด" ตนนี้ว่า "ความงดงามของโครงสร้างอันกว้างใหญ่และละเอียดอ่อนของมันซึ่งมีสีแดงเลือดเส้นประสาทสีฟ้าและกล้ามเนื้อสีขาวเหมือนวิหารของโบสถ์ที่มีโพลีโครมาติก"การจัดแสงเงาแบบเรมบรานต์สร้างความสมจริงให้คนดูหวาดผวาตามได้ ภาพนี้ได้อยู่ในการครอบครองของสถาบันการศึกษาจนกระทั่งหลังปฎิวัติฝรั่งเศสจึงได้มาอยู่ในพิพิธภัณฑ์ลูฟล์

หลังจากการแสดง ภาพ "The Ray" ในปี ค.ศ. 1728 ชาร์แด็งก็ได้รับเข้าเป็นสมาชิกของราชสถาบันจิตรกรรมและประติมากรรม( the Académie Royale de Peinture et de Sculpture) ปีต่อมาชาร์แด็งก็ลาออกจากสถาบันแซ็ง-ลุก( the Académie de Saint-Luc)




Still Life with the pan 1730

Pestle and Mortar Bowl Two Onions Copper Pot and Kettl,1734

Still Life with Ray and Basket of Onions. 1731. North Carolina Museum of Art


A "Lean Diet" with Cooking Utensils , Pipes and Drinking Pitcher  ,1731 

    

Pipes and Drinking Pitcher  ,1737 Louvre

ในฐานะศิลปินหนุ่ม Chardin มีชีวิตที่เรียบง่ายในการใช้ชีวิตทำงานตามความต้องการให้กับลูกค้า แต่เขาไม่ได้กำหนดราคา แต่อนุญาตให้ผู้ซื้อเลือกว่าจะจ่ายค่าทำงานเท่าไหร่  แม้ว่าความนิยมของเขาจะเริ่มต้นในภาพวาดของสัตว์และผลไม้ต่อมาในปี 1730 Chardin ได้นำเครื่องใช้ในครัวมาใช้ในงานของเขา ( The Copper Cistern , ca. 1735, Louvre)  ต่อมาก็ได้นำภาพบุคคลมาแสดงสัญลักษณ์ในเรื่องราวของเขาด้วยเช่นกัน

แม้จะมีการจัดแสดงอย่างสม่ำเสมอใน Paris Salon แต่ศิลปินกลุ่มนีโอคลาสสิกในเวลานั้นเกลียดแนวการวาดภาพของศิลปินยุคโรโคโคอย่างชาแดงเช่นกัน





























Boy with a Top, เด็กชายกับโต๊ะ c. 1735, น้ำมันบนผ้าใบ, พิพิธภัณฑ์ศิลปะเซาเปาโล

ความสามารถที่ลึกลับของชาแดงในการแสดงภาพความไร้เดียงสาของเด็กด้วยท่าทางที่อ่อนโยน ( Boy with a Top )ได้รับการชื่นชมจากผู้ชมว่าเป็นงานที่แสดงลักษณะเฉพาะตัวของเขาที่ไม่มีใครทำได้



A Lady Taking Tea , 1735

ถือเป็นงานมาสเตอร์พีชชิ้นหนึ่งของเขา เชื่อกันว่านางแบบคือ Marguerite Saintard (มาร์เกอริต แซ็งตาร์ด )ภรรยาของเขาเอง ซึ่งได้เสียชีวิตลงหลังจากภาพนี้วาดเสร็จเพียง 2 เดือน และอีก2 ปีต่อมาลูกสาวของเขา Marguerite-Agnès ก็เสียชีวิตลงเช่นกัน
ในปี1744 เขาแต่งงานครั้งที่2กับ Françoise-Marguerite Pouget ได้กำเนิดลูกสาวคนหนึ่งแต่เสียชีวิตในวัยเพียง1ขวบ


The Young Schoolmistress 1736




Le Faiseur de Châteaux de Cartes -The House of Cards (เด็ก ๆเล่นสร้างบ้านด้วยการ์ด), 1735 ที่ Waddesdon Manor


The House of Cards  1736 – 1737 The National Gallery, London  "ลูกชายของนายเลอนัวร์สนุกกับการสร้างบ้านไพ่" หรือเรียกอีกอย่างว่า "บ้านของการ์ด"

เด็กในภาพเป็นลูกชายของเพื่อนซึ่งเป็นนักทำตู้ที่มีชื่อเสียงของฝรั่งเศสใช้ สีส่วนรวมเป็นน้ำตาลที่เน้นความหนักเบา มีสีเขียวช่วยให้ภาพดูมีชีวิตชีวา การจัดองค์ประกอบภาพเป็นสามเหลี่ยมโดยใช้ทิศการมองของสายตานำไปสู่ไพ่ในมือที่กำลังตั้งขึ้นเป็นบ้านที่ดูง่อนแง่นเปราะบาง แสดงถึงความไม่แน่นอนในอนาคต
การละเล่นของเด็กๆเป็นเรื่องที่ชื่นชอบของ Chardin เขาวาดภาพวัยรุ่นเล่นสร้างบ้านไพ่การ์ดอย่างน้อยสี่รูป ภาพที่ Waddesdon Manor มีความซับซ้อนมากที่สุด ฉากเหล่านี้มาจากเมืองเนเธอร์แลนด์ศตวรรษที่ 17 ซึ่งนำเสนอข้อความเกี่ยวกับธรรมชาติของชีวิตมนุษย์และเรื่องราวที่ไม่แน่นอน แต่ Chardin ยังแสดงความสุขในระยะเวลาอันสั้นของวัยเด็กเพราะความชอบส่วนตัว


The Cellar Boy , 1738


the-kitchen-maid-1738

the attentive nurse c. 1738

The Return from Market  1739 , Louvre



La Gouvernante (The Governess) 1739 ภาพผู้ปกครองพี่เลี้ยงเด็ก  National Gallery of Canada

ภาพแสดงเรื่องราวประจำวันในครอบครัว เด็กกำลังแต่งตัวไปเรียนมีหนังสือเรียนเหน็บไว้ที่แขนโดยแม่กำลังแปรงหมวกให้ มีของเล่นไพ่การ์ด ไม้ตีและลูกขนไก่ตกอยู่บนพื้น




The Soap Bubble c. 1739 Los Angeles County และ National Gallery of Art
ภาพของเขาได้รับแรงบันดาลใจจากประเพณีของชาวดัตช์ในศตวรรษที่สิบเจ็ดสำหรับทั้งรูปแบบและเรื่องราว  สัญลักษณ์ของฟองสบู่ก็เข้าใจกันถึงความลี้ลับตลอดจนความไม่มั่นคงของชีวิต



Saying Grace (La Benedicite), 1740 Musée du Louvre, Paris


Girl with Racket and Shuttlecock  1741 หญิงสาวที่มีไม้และลูกขนไก่

รูปของหญิงสาวที่มีไม้แบดมินตันและลูกขนไก่ โทนสีของงานอ่อนนุ่มและบอบบาง ผิวสีชมพูของตัวละครแบนราบและทำให้มีความคมชัดกับพื้นผิวของกระโปรง  มองไปที่แก้มสีแดงของเธอเราเห็นความไร้เดียงสาของหญิงสาวที่มีท่าทางใจร้อนดูเหมือนจะเหนื่อยที่จะเป็นแบบให้กับศิลปิน ราวกับว่าความสนใจเดียวที่เธอมีคือการออกไปเล่นตีลูกขนไก่



The morning toilet, 1741

Diderot by Louis-Michel van Loo ,1767 ดีเดอโร วาดโดย หลุยส์ มิเชล แวนลู

ในปี 1752 Chardin ได้รับเงินบำนาญของ 500 livres โดย Louis XV. เขามีงานแสดงภาพเขียนเก้าภาพที่ Salon ปี 1759; มันเป็นครั้งแรกที่ได้รับการวิจารณ์โดย  Denis Diderot- ดอนี ดีเดอโร นักปรัชญาและนักวิจารณ์ศิลปะชาวฝรั่งเศสผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุคที่จะพิสูจน์ได้ว่าชาร์แดงเป็นผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งแห่งวงการศิลปะ

ดีเดอโรซึ่งเป็นผู้ที่ให้ความสนใจต่อจิตรกรรมเป็นอย่างมากของยุคแห่งความรู้แจ้ง เขาจึงติดตามชมภาพเขียนต่าง ๆ ที่จิตรกรนำมาแสดงในงานแล้วเขียนเป็นบทวิจารณ์ลงในวารสาร La Correspondance littéraire ตามคำขอของเพื่อนสนิทของเขา Grimm ซึ่งบทวิจารณ์เหล่านั้นเรียกรวม ๆ ว่า บทวิจารณ์ภาพเขียน” (Les Salons)
บทวิจารณ์ของดีเดอโรแสดงให้เห็นว่าเขามีความเข้าใจในศิลปะการเขียนภาพอย่างลึกซึ้ง และเขายังสามารถให้ข้อเสนอแนะที่น่าสนใจแก่จิตรกรด้วย อย่างไรก็ตาม บทวิจารณ์ภาพเขียนของดีเดอโรไม่ได้รับการตีพิมพ์ในประเทศฝรั่งเศส แต่ถูกส่งไปยังสมาชิกกลุ่มผู้อ่านอื่น ๆ ที่ได้รับการคัดเลือกไว้แล้วในชนชั้นสูงที่ประเทศต่าง ๆ ทางตอนเหนือของฝรั่งเศส ซึ่งบุคคลเหล่านั้นต้องการติดตามเหตุการณ์ความเป็นไปของกรุงปารีส บทวิจารณ์ภาพเขียนได้รับการตีพิมพ์หลังจากที่ดีเดอโรเสียชีวิตแล้วในช่วงศตวรรษที่ 19

  still-life with two rabbits 1750 and 1755

Still Life of Peaches, Nuts, Grapes and a Glass of Wine 1758


Jar of Apricots 1758

Water Glass and Jug 1760


The Brioche, or A Dessert  1763 The Louvre -- Paris, France

ความสามารถที่เด่นชัดของเขาคือนการจัดการใช้สีที่จะทำให้เกิดความสว่างและความเงียบสงบ เขาพูดว่า"ใช้สีเพียงหนึ่งเดียว แต่สีเดียวกับความรู้สึก" (“One uses colours, but one paints with feeling.”) เขาชื่นชม Jean-Antoine Watteau(วัตตูร์) ถึงแม้ความรู้สึกอ่อนไหวจะแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
ปี1756 กลับมาเขียนภาพหุ่นนิ่งอีกครั้ง พอปี 1770 สายตาของเขาอ่อนแอลงและเขาหันมาวาดภาพด้วย สีพาสเทล ซึ่งเป็นสื่อกลางในการถ่ายภาพบุคคลและภรรยาของเขา ในปี1770 นี้Chardin ได้รับยกย่อง เป็น 'peintre พรีเมียร์ du Roi' และเงินบำนาญของเขา 1,400 livres เป็นจำนวนเงินที่สูงที่สุดในสถาบันการศึกษา




Reading Woman with Child  ภาพวาดดินสอบนกระดาษ




Chardin  self-portrait, 1771  pastel , Musée du Louvre, Paris

Madame Chardin 1775 pastel on blue paper , Louvre Museum

ในปี ค.ศ. 1772 ลูกชาย Chardin ที่เป็นจิตรกรจมน้ำตายใน เมืองเวนิส คาดว่าเป็นตัวการฆ่าตัวตาย
Chardin ร่วมแสดงงานกับSalonครั้งสุดท้ายในปี1779  ต่อมาเขาป่วยหนักในเดือนพฤศจิกายน และเสียชีวิตในปารีสของปีนั้น เมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่อายุ 80 ปี

Boy Blowing Bubbles 1867  วาดโดย Edouard Manet จิตรกรยุคอิมเพรสชั่นนิสซ์

หุ่นนิ่งของPaul Cezanne (1839-1906)จิตรกรกลุ่มยุคโพสอิมเพรสชั่นนิสซ์

หุ่นนิ่งของHenri Matisse (1869-1954)จิตรกรกลุ่ม Fauvism (โฟวิสซ์) 

อิทธิพลของ Chardin ต่อศิลปะสมัยใหม่นั้นมีอยู่มากมายและได้รับการรับรองเป็นอย่างดี Boy Bubble Bubbles ของ Édouard Manet และภาพหุ่นนิ่งของ Paul Cezanne (เซซาน) และ Henri Matisse (มาติส)
ภาพวาดของ ฌ็อง-บาติสต์-ซีเมอง ชาร์แดง ทำให้เราเห็นความงามในชีวิตที่ยังคงอยู่ที่บ้านและในกิจกรรมประจำวัน เช่น การปอกเปลือกผักกาด ที่ดำเนินในอดีต

ความคิดเห็น

  1. Strange "water hack" burns 2lbs overnight

    At least 160000 men and women are losing weight with a simple and SECRET "liquids hack" to burn 1-2lbs each night while they sleep.

    It's proven and works on everybody.

    Just follow these easy step:

    1) Go get a drinking glass and fill it half glass

    2) And then use this weight loss hack

    so you'll become 1-2lbs skinnier when you wake up!

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ศิลปะยุคกรีก

ศิลปะยุค โรโกโก ตอนที่1 ศิลปแห่งความอ่อนหวานและรุงรัง

ศิลปะยุคบาโรค Baroque ตอนที่ 9 Gian lorenzo Bernini ผู้เสกหินอ่อนให้หายใจได้